การเขียนบทหนัง ต้องเตรียมอะไรและมีขั้นตอนในการเขียนอย่างไรบ้าง
การเขียนบทหนัง วันนี้เราจะพูดถึงเรื่องฉากกันนะครับ ในหนัง 1 เรื่องจะประกอบไปด้วยฉากหลากหลายฉากมาดูกันเลยนะครับว่าต้องเขียนอย่างไรเพื่อให้คนที่เขาทำไปจัดฉากเขาเข้าใจผมจะยกมาทั้งหมด 4 ฉากนะครับ ไปดูกันเลย
ฉากที่ 1 ฉากที่พ่อของวินเนอร์ชวนวินเนอร์เล่นหมากรุก
ห้องของพ่อวินเนอร์ตกตางตามสไตล์โรมันมีสีขาวละทองเป็นสีหลักประตูทำจากกระจกติดฟิลม์ดำที่สามารถมองได้จากด้านในแต่ด้านด้านจะไม่มาสมารถมองเห็นด้านในได้เมื่อเปิดประตูเข้าจะพบกับโต๊ะทำงานของพ่อวินเนอร์ที่มีสีดำมีโทรศัพท์พร้อมเอกสารจำนวนหนึ่งที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบวางอยู่ด้านหลังมีเก้าอี้ที่ทำจากหนังสีน้ำตาลมันวาวด้านซ้ายมือจะเป็นชั้นหนังสือด้านหลังโต๊ะทำงานจะเป็นหน้าต่างที่ทำจากกระจกกันกระสุนขนาดใหญ่ด้านขวามือมีโซฟาและโต๊ะน้ำชาไว้รับแขก
ฉากที่ 2 ฉากห้องทำงานของวินเนอร์
ห้องทำงานของวิรเนอร์ตกแต่งด้วยสไตล์มินิมอลใช้สีดำละเทาเป็นหลักโต๊ะทำงานของเขามีสีขาวตัดเส้นด้วยลายสีดำมีเอกกองกระจัดกระจายเก้าอี้ทำงานเป็นสีดำเงาทำการหนังสัตว์คุณภาพดีเมื่อมองไปทางซ้ายบนของโต๊ะทำงานจะเห็นรูปพ่อของเขาทางด้านซ้ายมือของห้องจะติดรูปตระกูลขนาดใหญ่ส่วนทางขวาจะเป็นตู้กระจกด้านในมีหนังสือส่วนด้านหลังโต๊ะทำงานมีหน้าต่างขนาดปกติ2บานทำจากกระจกกันกระสุน
ฉากที่ 3 ฉากภายในบ้านของวินเนอร์
บ้านของวินเนอร์ตกแต่งแบบสไตล์โรมันผสมกับมินิมอลใช้สีขาว ทองและดำเป็นหลักเมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกันบรรไดขนาดใหญ่ เมื่อมองไปทางซ้ายจะเป็นห้องทานข้าวส่วนทางขวาจะเป็นห้องรับแขกเมื่อมองไปด้านบนจะพบกับแชนเดอเรียขนาดใหญ่สีทองเมื่อเดินขึ้นบรรไดไปเลี้ยวขวาจะพบกับห้องทำงานของพ่อวินเนอร์และถัดไปจะเป็นห้องนอนของพ่อและแม่ส่วนถ้าเลี้ยงซ้ายจะพบกับห้องทำงานของวินเนอร์และห้องนอนของเขาด้านหลังบ้านเป็นสระว่ายน้ำขนาด 50x50 รอบตัวบ้านตกแต่งด้วยต้นไม้นานาพรรณและดอกไม้สีสันสวยงามให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนวิหารของเทพในโอลิมปัส
และใน EP ที่แล้วมีเพื่อนๆถามผมเข้ามาว่าถ้าไม่ใช่หนังแนวทั่วไปต้องเขียน ตัวอย่าง บทหนังสั้น ยังไงเพื่อไม่ให้เพื่อนๆนั้นงงผมได้ทำตัวอย่างของหนังทั่วไปหรือหนังที่สร้างมาจากชีวิตจริงให้เพื่อนๆที่สงสัยดูกันนะครับไปดูกันเลย
1. บรรยายบรรยากาศตอนเปิดเรื่อง
ย้อนกลับไปเมื่อ ปี พ.ศ. 2554 นายก็อตตอนนั้น กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมตอนต้น ปีที่สอง ประมาณเทอมหนึ่ง ตอนนั้นก็อตอายุ 14 ปี ที่กำลังเรียนอยู่ ตัวก็อตนั้น เขามีนิสัย ที่เป็นเด็กค่อนข้างตั้งใจเรียนเอามากๆ มาตั้งแต่เขายังเด็กๆจนเป็นนิสัย ในปัจจุบัน นิสัยดี ขยัน หมั่นเพียร อดทน มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ พูดจาไพเราะ อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ทุกคน ต่อกับทุกๆคน
ทั้งเพื่อนของเขา และ ผู้คนชาวบ้านในหมู่บ้านที่เขาอาศัย ทุกๆคน ต่างชอบ และรักใคร่ ชอบในตัวเขาเลย ที่เขาเป็นเด็กดี กตัญญูต่อพ่อแม่ และทุกๆครั้งหลังเลิกเรียนในแต่ละวัน เขาจะต้องกลับมาช่วยพ่อแม่ กลับมาทำงานบ้านอยู่เป็นประจำ เป็นกิจวัตร แล้วพอหลังจาก ที่เขาอะไรเรียบร้อยแล้ว ทำการบ้านเสร็จ ทำงานบ้านที่บ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เขาก็มักจะไปชอบช่วยแม่ขายของที่ตลาด อยู่เป็นประจำ และกลับบ้านพร้อมกับแม่เขาทุกๆครั้งไป ถึงแม้ก็อตนั้นจะไปช่วยพ่อแม่ ทำงานแล้ว ถึงจะช่วยหนักแค่ไหน ในใจเขากลับไม่เคยคิดจะเหนื่อยและขี้เกียจเลย เพราะเขาคิดว่าการอยู่กับพ่อแม่และครอบครัว มันชั่งมีความสุขเอามากๆ และเรื่องการเรียนของเขาก็ดีมาเสมอ ไม่เคยขาดสาย กันเลยทีเดียว และยังทำเกรดมาดีทุกครั้งให้พ่อแม่ ภูมิใจในตัวเขามาโดยตลอด
2. บรรยายเหตุการณ์กว้างๆขององค์กรหนึ่ง
แต่ในตอนนั้นเอง ตัวของนายก็อต เขาก็มีเพื่อนสนิท เพื่อนรัก ที่สนิทเอามากๆ ของเขาอยู่คนนึง เขามีชื่อว่า นายเสือ นายเสือเขาเป็นเพื่อนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับก็อต ชอบเล่นอะไรมาด้วยกัน ชอบเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ ชอบเล่นกันกับเพื่อนๆ กลุ่มเดียวกับในหมู่บ้าน และเขาก็โตกันมาด้วยกัน เพราะอยู่บ้านในซอยเดียวกัน อายุก็เท่ากัน
ซึ่งพ่อแม่ต่างทั้งสองฝ่ายก็สนิทกัน ก็อตและเสือ เรียนหนังสือมาด้วยกันตั้งแต่สมัยตอนเรียนอนุบาล เรียนก็เรียนโรงเรียนด้วยกัน มาจนโต มีเพื่อนก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน เวลาไปไหนก็มักจะชอบไปด้วยกัน จนโตมาถึงปัจจุบัน เขาจึงสนิทกันมากๆ เวลาก็อตจะไปไหนก็ต้องมีเสืออยู่ข้างๆกัน เปรียบได้ว่าเป็นเงาตามตัวกันเลย ไม่มีเสืออยู่ไม่ใช่ก็อต
ไม่ใช่ก็อตอยู่ไม่ใช่เสือ จนเพื่อนๆในกลุ่มก็ชอบพูดว่า ก็อตเสือ คู่หูเพื่อนตาย เรียกได้ว่า เป็นเพื่อนที่รักกันมากๆสุดๆเลยก็ได้ แต่ในตัวเสือนั้นมีนิสัยที่ต่างไปจากก็อตเอามากๆ ต่างกันโดยสิ้นเชือง ตัวของเสือเอง เขาเป็นเด็กที่ไม่ตั้งใจเรียน ชอบแกล้งเพื่อนในชั้นเรียนหรือในห้องอยู่เป็นประจำ ชอบเกเร ก้าวราว มีนิสัยดื้อรั้น จนติดเป็นนิสัย
ชอบอะไรที่มันแผงๆซนๆ พ่อแม่เสือเตือนอะไร เสือไม่เคยฟังและไม่เคยทำตาม ยิ่งห้ามเสือเท่าไหร่ก็เหมือนยิ่งยุ พูดหูซ้ายทะลุหูขวา ยังไงอย่างงั้น เสือชอบทำตัวมีปัญหากับพ่อแม่ทุกครั้งกับทางบ้านมาเสมอ สร้างเรื่องมาอยู่เป็นประจำ ชอบทำตัวให้พ่อแม่ปวดหัว ปวดประสาทตลอด เสือมีนิสัยมาแบบนี้ตั้งเด็กจนโต
3. บรรยากาศจุดหักเหตอนจบองค์กรหนึ่ง
แต่พอเริ่มเข้าสู่ ม.2 เทอม 2 จากตอนแรกที่ว่าการเรียนของก็อต เกรดดีมาตลอด เกรดสวยประจำ เกรดของก็อตและการเรียนของเขาเอง ก็เริ่มที่จะตกๆไป เริ่มได้น้อยลง เริ่มลดลง อย่างผิดปกติ เพราะเขาตอนนั้นเริ่มมีเพื่อนฝูงมากขึ้น ในวัย ม.ต้น ในชั้นระดับเดียวกัน ก็อตนั้นเริ่มจะไม่ค่อยสนใจเรียนสักเท่าไหร่ เริ่มที่จะโกหกพ่อแม่
เริ่มที่จะหนีเรียน โดดเรียน แอบหนีเรียนไปกับเพื่อนๆ หนีไปเที่ยวบ้าง หนีไปบ้านเพื่อน หนีไปมั่วสุมที่ร้านเกมที่เขาชอบไปกัน อยู่เป็นประจำ ช่วงเวลาตอนนั้นเขาเริ่มจะเจอเพื่อนที่จะชักจูง ไปในทางที่ผิด เริ่มมีการลองผิดลองถูก ด้วยการแอบสูบบุหรี่ กับเพื่อนๆ เริ่มที่คิดแอบจะดื่มเหล้า กินเบียร์ ถึงแม้เขาจะเริ่มไม่ตั้งใจเรียนสักเท่าไหร่
แต่ตัวก็อตเองก็มีความรู้ที่ดีมาติดตัวอยู่บ้างไม่ใช่น้อย ถึงแม้เขาเริ่มจะหันเกเรก็จริง แต่เกรดเฉลี่ยนของเขาในแต่ละครั้ง ก็ยังถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดีอยู่เคย ถึงแม้เกรดจะตกหล่นลงไป หรือ ลดลงก็ตามแต่ พอเริ่มเข้าสู่ ม.3 จะต้องเป็นระดับชั้นการเรียนสุดท้าย ที่เขาจะต้องคิดแล้วว่า จะเอายังไงต่อไปดี ระหว่างเลือกที่เรียนสายอาชีพ ปวช.หรือ สายสามัญต่อม.ปลายเหมือนเดิม
แต่นั้นก็เป็นเพียงความคิดในหัวของเขา แต่เขาเองก็ไม่ได้สนอะไรเพราะคิดว่าตอนนี้ยังไม่จบม.3 ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องคิด ค่อยคิดตอนใกล้จบ พอเวลานั้นผ่านไป จากที่ว่าเริ่มมีเพื่อนเยอะ เพียงแค่ในระดับชั้นเรียน เขาก็เริ่มมีเพื่อนพ้อง รุ่นน้อง รุ่นพี่ มากขึ้น จนไปถึงมีทั้งเพื่อนรุ่นพี่ที่ชอบเกเร ต่อยตีเป็นประจำ ที่เรียนอยู่ช่างกล อยู่ด้วยในขณะนั้น
จากแค่ไม่ตั้งใจเรียน เขาเริ่มมีจุดหักเหมากขึ้น ก็อตเริ่มมีเรื่องชกต่อยกันและมีการยกพวกตีกัน กับต่างโรงเรียนอยู่เป็นประจำ พอถึงเวลาเรียนจบม.3 เขาคิดได้แล้วว่า จะไปเรียนสายอาชีพ อาชีวะ ช่างกล เพราะคิดว่ามีเพื่อนประเภทนั้นค่อนข้างมาก และในใจก็คิดว่า อยากไปเรียนตามกับเสือ และพวกเพื่อนของเขา แต่ทางบ้านก็อตกลับค้าน กลับไม่ให้เขาเรียนช่างกลเป็นอันขาด แต่ก็อตก็ดื้อรั้น สุดท้ายเขาก็หาวิธีมาเรียนช่างกลจนได้ อย่างสมใจอยาก
เพื่อนๆอยากดูอีกไหมละครับถ้าเพื่อนๆอยากดูตัวอย่างการวางพอตของเรื่องนี้อีกก็ติดตามได้ในอาทิตหน้านะครับวันน่ผมขอลาไปก่อนครับ